วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บทความเรื่อง "วิธีบวชสามเณรีและบวชสิกขมานา"



บทความเรื่อง "วิธีบวชสามเณรีและบวชสิกขมานา"


การบวชเป็นสามเณรี

เมื่อมีสตรีอายุยังไม่ครบ ๒๐ ปี มาขอบวชในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้บวชเป็นสามเณรีเหมือนอย่างที่ทรงอนุญาตให้บุรุษผู้มีอายุไม่ครบ ๒๐ ปี บวชเป็นสามเณร

วิธีบวชแบบนี้ มีวิธีปฏิบัติ คือ ให้ผู้ขอบวชโกนศีรษะ ห่มผ้าเฉวียงบ่า เข้าไปกราบเท้าพระภิกษุณีสงฆ์แล้วนั่งกระโหย่งประนมมือ กล่าวคำขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ๓ ครั้ง ดังนี้

ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

จากนั้นจึงให้กล่าวคำขอสมาทานสิกขาบท ๑๐ (ศีล ๑๐) ว่า
--------------------------------------------------------------------

๑. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นการฆ่าสัตว์
๒. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้
๓. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติอพรหมจรรย์ (การมีเพศสัมพันธ์)
๔. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ
๕. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นเหตุให้ประมาท (ขาดสติ)
๖. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล (หลังเที่ยงวัน)
๗. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการดูสิ่งที่เป็นข้าศึก คือ การฟ้อนรำ ขับร้อง และบรรเลงดนตรี
๘. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการลูบไล้ด้วยของหอม ทัดทรงพวงดอกไม้ การแต่งตัว และการประดับประดา
๙. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการนอนบนที่นอนสูงและบนที่นอนใหญ่
๑๐ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการรับเงินและทอง


การบวชเป็นสิกขมานา

การบวชเป็นสิกขมานาคือ...การบวชขั้นต่อจากการบวชเป็นสามเณรี หมายความว่า เมื่อบวชเป็นสามเณรีจนกระทั่งอายุได้ ๑๘ ปีแล้ว เพื่อให้สามเณรีได้ปฏิบัติเคร่งครัดยิ่งขึ้นอีก พระพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดให้สามเณรีนั้นถือบวชอีกขั้นหนึ่งก่อนบวชเป็นพระภิกษุณี การบวชขั้นนี้เรียกว่า “สิกขมานา” แปลว่า “นางผู้กำลังศึกษา” หมายความว่า สามเณรีนั้นกำลังรักษาสิกขาบท ๖ ข้อ ในจำนวน ๑๐ ข้อนั้นให้เคร่งครัดยิ่งขึ้นอีก โดยจะล่วงละเมิดข้อหนึ่งข้อใดไม่ได้เลยตลอดระยะเวลา ๒ ปีนั้น และภายใน ๒ ปีนั้น หากสามเณรีล่วงละเมิดข้อใดข้อหนึ่ง ท่านจะต้องกลับมาเริ่มต้นสมาทานรักษาใหม่

วิธีบวชขั้นนี้ มีวิธีปฏิบัติ คือ ให้สามเณรีห่มผ้าเฉวียงบ่าเข้าไปหาพระภิกษุณีสงฆ์ ไหว้เท้าพระภิกษุณีสงฆ์แล้วนั่งกระหย่งประนมมือกล่าวคำขอสิกขาสมมติ (คือ ความตกลงยินยอมของพระภิกษุณีสงฆ์ที่จะให้เธอผู้มีอายุ ๑๘ ปี เริ่มรักษาสิกขาบท ๖ ข้ออย่างเคร่งครัดตลอด ๒ ปี ก่อนจะได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุณีต่อไป) ต่อหน้าพระภิกษุณีสงฆ์ ๓ ครั้ง ว่า

ข้าแต่แม่เจ้า "ข้าพเจ้าผู้มีชื่ออย่างนี้ เป็นกุมารี(สามเณรี) ของแม่เจ้าชื่อนี้ มีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ขอสิกขาสมมติในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี" ต่อหน้าสงฆ์

ต่อจากนั้น พระภิกษุณีผู้ฉลาดสามารถจะประกาศท่ามกลางสงฆ์ ด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่า

"แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า กุมารี (สามเณรี) ชื่ออย่างนี้ เป็นกุมารีของแม่เจ้าชื่อนี้ มีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ขอสิกขาสมมติในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปีต่อหน้าสงฆ์ หากสงฆ์มีความพร้อมพรั่ง จงให้สิกขาสมมติในธรรม ๖ ข้อตลอด ๒ ปี แก่กุมารีชื่อนี้ ผู้มีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์นี้" เป็นวาจาประกาศให้ทราบ

สงฆ์ได้ให้สิกขาสมมติในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี แก่สามเณรีชื่อนี้ ผู้มีอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ สงฆ์เห็นชอบจึงนิ่ง ข้าพเจ้าจะจำความนี้ไว้อย่างนี้

จากนั้น สิกขมานาได้เปล่งวาจาสมาทานสิกขาบท (ธรรม) ๖ ข้อ ว่า
------------------------------------------------------------------------------

๑. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นการฆ่าสัตว์ โดยไม่ล่วงละเมิดตลอดเวลา ๒ ปี
๒. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ โดยไม่ล่วงละเมิดตลอดเวลา ๒ ปี
๓. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติอพรหมจรรย์ (การมีเพศสัมพันธ์) โดยไม่ล่วงละเมิดตลอดเวลา ๒ ปี
๔. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ โดยไม่ล่วงละเมิดตลอดเวลา ๒ ปี
๕. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นเหตุให้ประมาท (ขาดสติ) โดยไม่ล่วงละเมิดตลอดเวลา ๒ ปี
๖. ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล (หลังเที่ยงวัน) โดยไม่ล่วงละเมิดตลอดเวลา ๒ ปี

รวมความว่า....ตามวิธีการบวชแบบ "ญัตติจตุตถกัมมูปสัมปทา" ซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น สำหรับพระภิกษุมี ๒ ขั้นตอน คือ บวชเป็นสามเณรแล้วจึงบวชเป็นพระภิกษุ ส่วนภิกษุณีมี ๓ ขั้นตอน คือ บวชเป็นสามเณรีและสิกขมานา แล้วจึงบวชเป็นพระภิกษุณี

อนึ่ง สตรีที่อายุเกิน ๒๐ ปีแล้ว ก็ต้องบวชเป็นสามเณรีและสิกขมานาก่อน แล้วจึงบวชเป็นพระภิกษุณีได้...